ประวัติผู้จัดทำ

ชื่อ นางสาวฮาฟีซา เจ๊ะเงาะ

รหัสนักศึกษา  071 ห้องคอม 2/58

สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส

ขั้นตอนการทำน้ำยา

๑. นำปลาต้ม , หอมแดง , กระเทียม , พริกไทยมาโขลกให้เข้ากันจนละเอียด

                  

๒. เตรียมน้ำกะทิ

๓. พอได้น้ำกะทิแล้ว นำเครื่องที่เราโขลกมาใส่ในน้ำกะทิ แล้วไปตั้งไฟ 

๔. พอน้ำแกงเดือดให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย,เกลือ,น้ำตาลแว่น,ส้มแขก  แล้วชิมตามใจชอบ

๕. เราก็จะได้น้ำยาละแซ(สูตรโบราณ)

             

ส่วนผสมของการทำน้ำยาละแซ

๑. ปลาต้ม

๒.น้ำกะทิ

๓. กระเทียม/หอมแดง

๔.ขิง

๕. พริกไทย

๖. น้ำตาลแว่น

๗. น้ำตาลทราย

๘. เกลือ

๙. ส้มแขก

ขั้นตอนการทำละแซ

๑. นำแป้งข้าวจ้าวมาละลายในน้ำสะอาด

๒. จากนั้นเอาน้ำใส่ในหม้อนึ่งแล้วตั้งไฟให้น้ำเดือด

๓. พอน้ำเดือดแล้ว ให้เทแป้งลงในถาดที่รองด้วยถุงอยู่แล้ว จากนั้นใส่ในหม้อนึ่งแล้วปิดฝา

๔. พอแป้งสุก ก็เอาออกจากหม้อนึ่งโดยใช้ตะหลิ่วยก วางแป้งให้เย็นก่อนแล้วค่อยม้วน

๕.พอม้วนเสร็จ เราก็วางลงในถาด จากนั้นเราก็จะได้เส้นละแซที่เราต้องการ

ส่วนผสมการทำเส้นละแซ

๑. แป้งข้าวจ้าว

๒. น้ำสะอาด

๓. น้ำมัน

วัสดุ/อุปกรณ์

๑. หม้อนึ่ง

๒. หม้อ

๓. ถาดนึ่งแป้ง/ถุงรองแป้ง

๔. ตะหลิว/ทัพพี

๕. ถาดใส่ละแซ

๖. ครก

ประวัติความเป็นมาของละแซ

                   
                     

                     "ละแซ" หรือ ภาษาบาหาซา เรียกว่า Laksam เป็นอาหารพื้นบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้นกําเนิดมาจากรัฐกลันตัน เคดาห์และตรังกานูประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทย จึงมีการเผยแพร่มายังประเทศไทยโดยง่าย

                  "ละแซ" เป็นอาหารคาวซึ่งมีเส้นแบนยาวเป็นแถบๆ  คล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ราดด้วยน้ำแกงและผสมผักใช้รับประทานเหมือนขนมจีน